นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จัดทำขึ้นเพื่ออธิบายให้ท่านทราบถึงแนวทางปฏิบัติของบริษัท ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล และเหตุผลในการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

1.ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมโดย บริษัท ซอร์สโค้ด จำกัด (ให้เรียกว่า “บริษัท”)

2.ข้อมูลส่วนบุคคล

คืออะไร ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง “ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ”

3.ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอันเกี่ยวกับการใช้บริการในปัจจุบันและที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล วันเกิด เพศ สัญชาติ ภาพถ่าย ภาพและหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่
  • ข้อมูลที่ใช้ในการติดต่อ เช่น ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
  • ข้อมูลและพฤติกรรมการใช้บริการ หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
  • ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระเงิน หมายเลขบัตรเครดิต และหมายเลขบัญชีธนาคาร
  • ข้อมูลในการวิเคราะห์การใช้บริการเพื่อการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งาน
  • ข้อมูลการบันทึกภาพผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และหรือสื่ออื่น เป็นต้น
  • ข้อมูลสาธารณะจากหน่วยงานต่างๆ ตามกฎหมาย
  • ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมาย คำขอตามกฎหมายของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและ/หรือคำสั่งศาล

4.แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้

บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจาก ขั้นตอนการให้บริการดังนี้

  • ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับบริษัท
  • จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (Survey) หรือการได้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทและท่าน
  • จากการใช้บริการ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
  • เก็บจากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ หรือ Mobile application ของบริษัทผ่าน Browser’s cookies ของท่าน
  • ข้อมูลจากแหล่งอื่น บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สามซึ่งมีสิทธิเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงตัวแทนหรือพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทที่บริษัทมีไว้เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถคำเนินการสมัครบริการและให้บริการแก่ท่าน โดยได้รับข้อมูลผ่านทางอีเมลได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ หรือได้รับเป็นเอกสารหรือในทำนองเดียวกันเช่นว่ามานี้ซึ่งผู้ที่เปิดเผยมีสิทธิให้ข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
  • ข้อมูลสาธารณะจากหน่วยงานต่าง ๆ ตามกฎหมาย การเรียกร้องจากคำร้องต่าง ๆ เป็นต้น

5.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  • เพื่อการให้บริการตามสัญญา การต่ออายุตามสัญญา การเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกสัญญา ซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • เพื่อการดำเนินการวิเคราะห์ ปรับปรุง และพัฒนาการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพรวมถึงรายการส่งเสริมการขายหรือผลิตภัณฑ์ของบริษัท
  • เพื่ออำนวยความสะดวกในการแจ้งหรือการชำระค่าบริการ
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และนำเสนอบริการ นำเสนอหรือให้สิทธิประโยชน์
  • เพื่อแจ้งและนำเสนอ สิทธิประโยชน์ ข้อมูล ข่าวสาร รายการส่งสริมการขาย และข้อเสนอต่าง ๆ เกี่ยวกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัทรวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
  • เพื่อการสมัคร หรือเปิดใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัทรวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
  • เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์และวางแผนการตลาด กิจกรรมทางการตลาดของบริษัทและ/หรือร่วมกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
  • เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคล
  • เพื่อวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามกฎหมาย และหรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายให้อำนาจในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผย โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้สมัคร เพื่อสมัครลงทะเบียนและเข้าใช้บริการ
  • เพื่อชำระค่าบริการและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ
  • เพื่อให้บริการหลังการขาย ให้บริการตามที่ท่านร้องขอ ตอบข้อสงสัย สนับสนุนการใช้งาน ให้ข้อมูลรับเรื่องร้องเรียน ชดเชยค่าเสียหาย และแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
  • เพื่อทำความเข้าใจความต้องการและความพึงพอใจของท่าน
  • เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร จากหน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐ
  • เพื่อส่งหนังสือแจ้งค่าบริการ ใบสั่งซื้อสินค้าและบริการ การแจ้งเดือนให้ชำระค่าสินค้าและบริการจัดทำใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี ติดตามทวงถามหนี้
  • เพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายการให้บริการของบริษัท รวมถึงตรวจสอบระบบและกิจกรรมของผู้ใช้บริการ เพื่อติดตามกิจกรรมที่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อท่าน ผู้อื่น และบริษัท

6.การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ ทั้งนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลข้อมูลการใช้บริการของท่าน ให้แก่บริษัทในเครือของบริษัท ซอร์สโค้ด จำกัด เครือกิจการ เครือธุรกิจหน่วยงานราชการตามกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรม ผู้ให้บริการสนับสนุนลูกค้า ผู้ให้บริการจัดการด้านการตลาดและการโฆษณาที่ปรึกษาทางธุรกิจ รวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใดที่บริษัทและ/หรือท่านเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อป้องกันการฉ้อโกง

บริษัทอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล หน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ ที่มิได้มีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (Appropriate safeguards)

7.การเก็บรักษาและระยะเวลในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

  • ลักษณะการเก็บ : จัดเก็บเป็นหนังสือ (Hard copy) และจัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Soft copy) โดยมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึงใช้เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
  • ระยะเวลาจัดเก็บ : บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัดถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัท หรือภายในระยะเวลาการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของคู่สัญญา
  • เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ภายในระยะเวลาอันควร

8.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังนี้

  • ขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม
  • แจ้งให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลต้องดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้องเป็นปัจจุบันสมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปให้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัดโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  • คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ที่กฎหมายขออนุญาตให้เก็บได้โดยไม่ต้องไห้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เมื่อใดก็ได้
  • ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด
  • ขอให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีตามที่กฎหมายกำหนด
  • ร้องเรียนในกรณีที่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งตัวแทนหรือลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืนหรือ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • สิทธิในการถอนความยินยอม

    ก.) เมื่อท่านให้ความยินยอมกับบริษัทเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้นแล้ว ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่มี ข้อจำกัดสิทธิตามกฎหมาย หรือเกี่ยวข้องกับสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน

    ข.) ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทและบริษัทอาจขอทราบถึงเหตุผลแห่งการนั้น

    ค.) ในการดำเนินการใช้สิทธิขอถอนความยินยอม ท่านจะต้องติดต่อและขอใช้สิทธิด้วยตัวท่านเองตามช่องทางที่บริษัทกำหนดไว้

9.ผลการเพิกถอนความยินยอม

  • การเพิกถอนความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่เข้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านั้น
  • ในกรณีที่ท่านประสงค์ที่จะเพิกถอนความยินยอม ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • หากการถอนความยินยอมของท่านทำให้บริษัท ไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือให้บริการบางอย่างให้แก่ท่านได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม ซึ่งอาจมีผลให้บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือการให้บริการกับท่านได้
  • ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อยื่นคำร้องขอใช้สิทธิข้างต้นตามรายละเอียดที่ปรากฏในข้อ 15.หรือตามช่องทางที่บริษัทกำหนด บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอที่เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต คำร้องขอที่ไม่สมเหตุสมผล คำร้องขอที่กฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้และ หรือคำร้องขอที่ไม่สามารถปฏิบัติไว้จริงนอกจากนี้ บริษัทมีสิทธิในการปฏิเสธคำร้องขอของทำนตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

10.ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีความจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายหรือเพื่อการเข้าทำสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท หากท่านเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการแก่ท่านได้ นอกเหนือจากกรณีที่บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาและการปฏิบัติตามกฎหมาย ในกรณีที่ท่านไม่ยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านยังคงสามารถใช้บริการของบริษัทได้ โดยท่านเองได้รับความสะดวกจากการใช้บริการน้อยลง เนื่องจากบริษัทไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ

11.กิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาด

ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทจะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาดและการส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงบริษัทในครือบริษัท ซอร์สโค้ด จำกัด ผู้โฆษณา และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ท่านอาจมีความสนใจ โดยท่านสามารถคำเนินการยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ ตามรายละเอียดที่ปรากฏในข้อ 15. หรือตามช่องทางที่บริษัทกำหนด

12.นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่น

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการให้บริการของบริษัทและการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่น แม้ผ่านช่องทางในเว็บไซต์ของบริษัทก็ตาม ท่านจะต้องศึกษาและปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฎในว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัท

13.การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติ และกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวในเว็บไชต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า บริษัทในเครือบริษัท ซอร์สโค้ด จำกัด ได้แก่ บริษัท สเปเชียล สแควร์ จำกัด

14.ข้อตกลงการใช้งานระบบ

  • Smartvoice ขอสงวนสิทธิ์ระงับการให้บริการชั่วคราว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า หากตรวจพบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ ชื่อผู้ใช้งาน ที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบนั้นเป็นสาเหตุให้ระบบโดยรวมเกิดปัญหา
  • การดาวน์โหลด หรืออัพโหลด ไฟล์ที่มีลิขสิทธิ์ต่าง ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ซึ่งผู้กระทำการมีความผิดทางกฎหมาย ทาง Smartvoice ไม่มีส่วนรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น
  • เมื่อคุณใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น Smartvoice รวบรวมและจัดเก็บข้อมูล พื้นที่การจัดเก็บข้อมูลในตัวเครื่อง รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน โดยใช้วิธีการต่างๆ เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเว็บบราวเซอร์ และแคชของข้อมูลแอพพลิเคชั่น เราจะเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลบางอย่างโดยอัตโนมัติซึ่งรวมถึงเบราว์เซอร์ที่ชี้เฉพาะเจาะจง ที่อยู่ IP เบราว์เซอร์และข้อมูลเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ อุปกรณ์ที่ชี้เฉพาะเจาะจง ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และข้อมูลที่ชี้เฉพาะถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ข้อมูลเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมของคุณที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ของเรา
  • Smartvoice นำเสนอข้อมูลและส่วนประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นนี้เพื่อให้ข้อมูลตามที่ปรากฏอยู่หรือที่มีอยู่เท่านั้น แม้ว่า Smartvoice จะได้ใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้ข้อมูลและส่วนประกอบนั้นมีความถูกต้องมากที่สุด Smartvoice ก็ไม่สามารถรับประกันว่าข้อมูลและส่วนประกอบดังกล่าวมีความถูกต้อง สมบูรณ์เพียงพอ เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ และปราศจากโปรแกรมที่ไม่พึงประสงค์หรือส่วนประกอบที่เป็นอันตรายอื่น ๆ นอกจากนี้ Smartvoice ไม่ขอดำเนินการแทน หรือรับประกัน ส่งเสริม ยืนยัน หรือยอมรับผิดชอบต่อแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม (หรือเนื้อหาในนั้น) เนื้อหาของผู้ใช้ อุปกรณ์หรือผลิตภัณฑ์อื่น หรือบริการมีการโฆษณา สนับสนุน หรือนำเสนอโดยบุคคลที่สาม บนหรือผ่านบริการของ Smartvoice หรือเว็บไซต์ที่มีไฮเปอร์ลิงก์ใดๆ หรือที่แสดงอยู่บนป้ายประกาศหรือการโฆษณาอื่น ๆ ทั้งนี้ Smartvoice จะไม่รับผิดสำหรับความผิดพลาดหรือการละเว้นใดๆ ในข้อมูลและส่วนประกอบนั้น
  • การใช้บริการ และเนื้อหาข้อมูลของคุณเป็นความเสี่ยงของคุณแต่เพียงผู้เดียว เว้นแต่จะกำหนดไว้ในข้อตกลงนี้ เท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะกำหนดอย่างกว้างที่สุด Smartvoice ธุรกิจในเครือ หรือผู้ให้บริการบุคคลที่สาม, ผู้ให้อนุญาตใช้สิทธิ ปฎิเสธความรับผิดชอบต่อการให้คำรับรองใดๆ ไม่ว่าจะโดยชัดแจ้งหรือปริยาย, รวมทั้งคำรับรองใดๆ ว่าบริการเหมาะกับวัตถุประสงค์, กรรมสิทธิ์, การค้า, ข้อมูลสูญเสีย, การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ เป็นการเฉพาะเจาะจง Smartvoice ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหาย ค่าใช้จ่าย หรือความสูญเสีย ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่น และ/หรือเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นที่เชื่อมโยงกับ Smartvoice ซึ่งรวมถึงจากความไม่ถูกต้องแม่นยำของข้อมูล ความล่าช้าในการถ่ายโอนข้อมูล ระยะเวลาในการเผยแพร่ข้อมูล เหตุขัดข้องหรืออุปสรรคของการเชื่อมต่อ ความผิดพลาดในการแสดงผล ความเสถียรของระบบ ไวรัสคอมพิวเตอร์
  • Link to privacy policy of third party service providers used by the app

    -Google Play Services

    -Firebase Analytics

15.ช่องทางติดต่อ

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถติดต่อบริษัทตามช่องทาง ดังนี้

  • ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ซอร์สโค้ด จำกัด เลขที่ 1 อาคารศุภากรเพลส ซอยวิภาวดีรังสิต 2 แยก 2 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. 10400
  • เบอร์โทรศัพท์ : 02-0261911
  • อีเมล : support@smartrms.net
  • เว็บไซต์ : www.smartvoice.in.th

อนึ่ง ก่อนให้ความยินยอมข้าพเจ้าได้อ่านและเข้าใจข้อกำหนดและเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งระบุไว้ด้านบนของความยินยอมนี้อย่างชัดเจนแล้ว